วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คนทั่วไปรู้จัก คิวปิด ในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร ศรรักของ คิวปิด หมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิด จะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกัน
คิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก ในกรีกโบราณ คิวปิด เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เอโรส ลูกชาย แอฟโพไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงามแต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือ คิวปิด และแม่ของเขาคือ วีนัส
มีเรื่องน่าสนใจพอสมควรเกี่ยวกับ คิวปิด และ ไซคี เจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน ผมขอแนะนำผู้อ่านให้รู้จักคู่รักของ คิวปิด สักนิดนะครับว่าเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ และเพราะความงามนี้เองที่ทำให้ วีนัส อิจฉา นางจึงได้สั่ง คิวปิด ให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่ คิวปิด ตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้น แทนที่จะลงโทษเธอ คิวปิด กลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจาก ไซคี มิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา (ตรงนี้ผมไม่ทร าบเหมือนกันนะครับว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ได้เธอเป็นภรรยาแล้วภรรยามองไม่ได้ แต่อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะเทพนิยายฝรั่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากละครน้ำเน่าบ้านเรา)
หลังจากตกเป็นภรรยาของ คิวปิด แล้ว ไซคี ก็มีความสุขเรื่อยมา (ก็แหงละ) จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมอง คิวปิด ทันทีที่เธอมอง คิวปิด คิวปิด ก็ลงโทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคี ก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆหรือ คิวปิด ปรากฏให้เห็นเลย
ในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของ วีนัส โดยบังเอิญ เมื่อ วีนัส เทพธิดาแห่งความรักพบว่า ไซคี ยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ปราถนาที่จะ ทำลาย ไซคี ด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานสุดท้ายที่ ไซคี ได้รับมิใช่งานขับเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดครับ หากแต่เธอได้รับกล่องใบหนึ่งมาและได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอา ความงามของ โพรเซอร์พีน ภรรยาของ พลูโต ใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย นอกจากนั้นแล้ว เธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ไม่ทราบ เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย
ต่อมา คิวปิด ได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง หลังจากนั้น คิวปิด ก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับ วีนัส เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อ คิวปิด จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่ง
ปัจจุบันนี้รูป คิวปิด แผลงศรเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน และเมื่อศรรักของ คิวปิด พุ่งโดนหัวใจหนุ่มสาวคนใดในวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวคนนั้นก็จะออกอาการ “สติวปิ้ด” จากศรรักของ คิวปิด ขึ้นมาทันที อาการนี้จะเห็นได้จากการส่งดอกกุหลาบสีแดง ส่งช็อคโกแล็ต การส่งบัตรอวยพรและอื่นๆ อีกครับ
หมายเหตุท้ายบท : “สติวปิ้ด” เป็นภาษาอังกฤษแปลว่า “โง่” ครับ เหมือนคำบางคำที่เราอาจเคยได้ยินว่า “ความรักบางครั้งก็ทำให้คนตาบอด และ มองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนที่เรารัก”

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

การเต้นบีบอย

พื้นฐานการเต้นB-Boy

http://www.youtube.com/watch?v=2fK4v9nIhvY
การที่เราจะก้าวเข้าไปสู่ ระดับมืออาชีพของการเต้น BBoy นั้น จะต้องทำสิ่งที่ควรจะทำคือ
1.ใจรัก
- ก่อนอื่นเลยขอรับ อันดับแรกท่านจะต้องมีใจรักในการเต้นก่อน คือแบบว่า หายใจเข้าก้อ BBoy หายใจออกก้อ BBoy มีกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคนานักประการที่อยู่เบื้อ งหน้าให้ได้
2.การฝึกฝน
- ใครที่คิดจาเริ่มเต้นทำดังนี้ให้ได้ก่อนคับ พื้นฐานเลยขอรับ
(ร่างกาย)
> ดันพื้นให้ได้วันละ 50 (ใหม่ๆ เอาแค่นี้ก่อน ...แล้วค่อยเพิ่ม ไป วันละ 10 )
> Sit - Up วันละ 50 เพื่อเสริมสร้างกล้ามหน้าท้องให้แข็งแรง และ ขจัดพุง
> ดึงข้อใหม่ๆเอา 5 ครั้งให้ได้ก่อนขอรับ แล้วค่อยเพิ่มไปทีละนิด
> วิ่งซัก 500 เมตรเพื่อเอาแรงขอรับ
(จิตใจ)
> ฟังเพลง Hip - Hop แล้วจับจังหวะให้ได้
> ต้องมีกำลังใจเสมอ สำคัญมาก อย่าท้อเด็ดขาด
> มีใจรักใน Hip - Hop และ BBoy
3. ในเรื่องของท่าในการเต้น B-Boy นะขอรับ ในเว็บนี้แหละขอรับหาดูขอรับ
มือใหม่ควรจาหัดท่าดังนี้ ขอรับ
- โพสต์ ค้างไว้ให้ได้ซัก 30 วิ ..จากนั้นค่อยเอาหน้าขึ้นไม่ให้ติดพื้น
- หกสูง ให้ได้นานๆ 5 วิขึ้นไป
- หกกบ จัดระเบียบร่างกายให้ได้ เอานานๆเลย
4.การ Excercise ก่อนการฝึกเต้น
- หกสูงพิงกำแพง 20 วิ เอาแรงแขน
- วิ่ง ซัก 300 เมตร (เดี๋ยวหมดแรง)


**คำแนะนำเพิ่มเติมขอรับ**
* มือใหม่ใจเย็นๆขอรับ อย่าเพิ่งหัด วินมิว เอา พื้นฐานให้ชัวร์ก่อนขอรับ เห็นทุกทีเลยมือใหม่มีแต่จาหัดวินมิว มันยากอยู่นะขอรับ
* พวกท่าโหดๆ Head Spin , แอแทค , Flare , Air Flare , 1990 , 2000 พวกนี้นะคับ ขอให้พวกท่านใจเย็น ๆ กันขอรับ ถ้าคิดจาฝึก ร่างกายต้องพร้อมก่อนนะขอรับ ต้องมีเทคนิคที่ดี ถ้ามีคนที่ระดับมืออาชีพแล้วอยู่คุมด้วยเนี่ย ข้าน้อยว่านะเป็นเร็วกว่าฝึกเอง 2-3 เท่าเลยนะขอรับ


ก่อนอื่น ก่อนจะเต้นต้อง วอร์มก่อนคือ แฮนสแตน หรือหกสูง ให้ได้อย่างต่ำ 20 วินาทีดึงแขน 20 ครั้ง แล้วก็ซิดอัพ 20 ครั้ง ก่อนจะเต้นต้องวิ่งซักประมาณ 500 เมตรเป็นอย่าต่ำ

บี-บอยจะมีสี่สายด้วยกัน คือ
1.สายหกสูง
2.สายป๊อบปิ้ง
3.สายมูฟ
4.สายทั่วไปคือแปรคแด๊นสายหกสูงคือ เต้นประยุคท่าแฮนสแตนเป็นท่าโพสที่สวยงาม น้ำหนักที่ควรจะไม่เกินคืออย่าเกิน 55 เพราะจะยากมากๆในการโพส ท่านี้อาจทำให้กล้ามขึ้น

สาย ป๊อบปิ้งคือ การเต้นแบบลื่นไหล เป็นท่วงท่าสวยงาม เพมาะสำหรับผู้ชายรูปร่างผอม

สาย มูฟคือ การใช้ร่ายกายในท่าทางต่างๆบนอากาศคือ เล่นนำหนักตัวนั่นเองการเอาทุกท่าทางมาผสมผสานกัน สายนี้นำหนักไม่ควรเกิด60 กิโล เพราะถ้าหนักมากกว่านี้คุณจะทำไม่ได้เลยสายทั่วไปก็ค ือแบรคแด๊น การเต้นแบบเบรกๆในเพลงฮิพฮอพนั่นเอง คุณสามารถคิดท่าได้เองเพราะท่าของบี-บอยมีไม่จำกัดเลย มีเป็นร้อยๆท่า สายนี้ไม่จำกัดนำหนัก ส่วนสูง ไม่จำกัดหน้าตา

การเต้น b-boy นั้นต้องมีเพลงประกอบด้วย และเพลงจำพวกนี้นั้นต้องเป็นเพลงที่มีจังหวะที่แน้น

ดังคลิป

http://www.youtube.com/watch?v=lpdDb5072ME

*หมายเหตุ

- คุณอย่ามาเต้นเพราะเอาไว้อวดสาว ๆ
- คุณต้องมีความพยายามและอดทนสูงมาก ๆ
- ถ้าคุณคิดว่าจะมาเต้นเพื่อสาว ๆแล้วล่ะก็อย่ามา เต้นดีกว่า มาขวางที่เค้าจะเต้นกัน
- เวลามาเต้นไม่จำเป็นต้องแต่งตัวจนเว้อร์เพราะมาเต้นข อรับไม่ได้มาเอาเท่
- แล้วก็ใครที่กะลังจะเต้น แล้วเต้นแบบMoveคุณต้องอดทนแล้วก็ พกยาหม่องไว้เลย(ได้ใช้แน่) แล้วก็ฝึกให้บ่อยที่สุด ใจเย็น ๆ มันต้องใช้เวลาพอสมควรเลยที่เดี๋ยว จงอย่าท้อกับมัน(โมผ่านมาแล้ว)
- ส่วนใครเล่นสตายฝึกจังหวะเยอะๆ อย่าไปcopy ท่าคนนู้นคนนี้มา ดูแล้วนำมาประยุคเอา ให้มันเป็นสตายของตนเอง
- คนที่กะลังจะเต้นนั้นคุณควรจะหกสูงเป็นแล้วนะขอรับจะ ช่วยได้เยอะเลย แล้วก็หกกบด้วย บริหารกายด้วยการดึงข้อคับจะดีที่สุดข้าน้อยคิดว่าจะ ?
- อยากกล้ามขึ้นให้ไปเล่นท่า แอร์แชร์ ขอรับขึ้นแน่
- เล่นMove นั้นคุณจงอย่าลัดขั้นนะขอรับมันทำให้เราเสียเวลามากแ ทนที่จะได้ท่าง่าย ๆก่อนแต่ดันไปเสียเวลากับท่ายาก ๆ เช่น มาถึงก็จะเอา Airtrack เลย คงจะนานขอรับ(ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ) แต่ทางที่ดีท่านควรจะแตะขาเป็นซ่ะก่อนโดยฝึก วินมิว แล้วก็โทมัส นี้แหละขอรับ ที่มาพูดนี้ก็พื่อแนะนำคนอยากเต้นนะขอรับไม่ได้ มาต่อว่าแต่ประการใด ๆ ถ้าแรงไปก็ขอโทษด้วย

ท่าที่ใช้ความแข็งแรงของแขน
-Handstand เรียกอีกอย่างคือหกสูง ในตอนแรกๆคุณควรฝึกกับกำแพงก่อน และเมื่อคุณทำได้แล้ว คุณค่อยมาทำโดยไม่พิงกำแพงให้ชิน ตอนหกสูงคุณควรเกร็งแขนให้มาก และหน้ามองพื้นไว้


- L-kick เป็นท่าที่คล้ายๆล้อเกวียน คือคุณทำท่าเหมือนคุณจะทำล้อเกวียน วางมือขวาลงด้านข้างของลำตัว (แล้วแต่ถนัดซ้าย-ขวา) แล้วเตะขาซ้ายเข้าหาลำตัวดีดขาขวาขึ้นตามไปค้างบนอาก าศ มือซ้ายจะไม่วางหมุนไปเป็นล้อเกวียน ในขณะเดียวกันเราจะเอามือซ้ายมาจับปลายเท้าซ้ายก็ได้ เพื่อความสวยงามและค้างมากยิ่งขึ้น

-Hollow Back เป็นท่าที่เหมาะมากสำหรับพวกที่อยากจะฝึกพวกฝืนบน ขั้นแรกคุณควรทำหกสูงสลับขาให้ค้างก่อน ต่อมาเมื่อคุณทำจนชินแล้วคุณค่อยเพิ่มท่าเข้าไปคือเก ็บคอพยายามเอาคางชิดอกไว้ คุณจะรู้สึกว่าตัวคุณเริ่มหงายไปด้านหลัง ต่อมาคือการวางมือเราจะวางมือกว้างกว่าปกติเท่าตัว และบิดข้อมือเข้าหากัน (จะมากหรือน้อยแล้วแต่คนถนัด) คราวนี้เราลองมาทำทุกอย่างพร้อมกันดู ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นไปขอให้เก็บคอเป็นอย่างแ รก

-V-sick เป็นท่าfreezที่นิยมในหมู่bgirlอย่างมาก ท่านี้คุณต้องเกร็งแขนและพับขาเข้าหาลำตัว ให้มากที่สุด การวางมือเหมือนHollow (อันที่จริงฝืนก็วางมือแบบเดียวกันหมด) เมื่อคุณดีดตัวขึ้นไปขอให้คุณเก็บคอพร้อมกับพับขาเข้ าหาลำตัว และทิ้งก้นไปด้านหลัง อาจจะน่าหวาดเสียวหน่อยในตอนแรกๆ แต่ถ้าคุณกล้าทิ้งก้นแล้วทุกอย่างก็ไม่มีอะไรน่าเป็น ห่วง สุดท้ายก็อยู่ที่คุณจะทำให้มันค้าง คุณต้องเกร็งไหล่เยอะๆ แต่เมื่อคุณชำนาญแล้วคุณก็สามารถปรับเปลี่ยนขาไปเป็น รูปแบบอื่นได้เช่นขาคู่,ขัดสมาร ถ,ขากางและอื่นๆ

-Side of V-sick เรียกอีกอย่างว่า ฝืนข้าง ท่านี้ต้องอาศัยเหลี่ยมความถนัดของแต่ละบุคคลแต่ที่แ บบมาคือเราเก็บคอแล้วต้องแหงนหน ้าไปในทิศทางที่เราฝืนอีกการวางมือเช่นเดียวกับ v-sick พยายามวางในระยะที่ไหล่เปิดมากที่สุดส่วนข้างในไปด้า นซ้ายหรือขวาก้อได้

ท่าที่ใข้ส่วนของไหล่และศอก แนบกับพื้น
- Elbow freez คือท่าโพสศอก เราวางศอกข้างที่ถนัดข้างใดข้างหนึ่งกับพื้น และวางมืออีกข้างไว้ข้างๆ ทำเป็นมุมสามเหลี่ยม และวาดขาที่ถนัดขึ้นไปแรงๆแล้วขาอีกข้างจะตามขึ้นไปเ อง จากนั้นให้เกร็งท่อนแขนช่วงไหล่ที่วางศอกไว้ให้มากที ่สุด ใช้มืออีกข้างเป็นตัวพยุง ขาที่วาดขึ้นไปให้กางตึงไว้ ส่วนขาอีกข้างให้งอไปด้านหลังให้มากที่สุด มันจะเป็นการรักษาสมดุล

-Side freez คือท่าโพสไหล่ เราวางแขนทั้งแขนแนบไว้กับพื้น แขนอีกข้างหนึ่งวางไว้ทำมุม ฉาก งอขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อที่จะดีดขึ้นไป การขึ้นเหมือนกับท่าElbow ท่านี้คุณควรเกร็งลำตัวให้มากที่สุด ให้ลำตัวตั้งตรงให้ได้ ไม่ให้โน้มไปด้านหน้า หรือกลิ้งไปด้านหลัง

ท่าที่ใช้ศอกตั้งเป็นฐาน
- Air Baby ท่านี้เราเอาศอกเป็นฐานแล้วใช้เข่าวาง อยู่บนศอกข้างเดียว มีทั้งOne handและ Two hand จะเจ็บศอกมากช่วงแรกๆ พยายามหาจุดให้เจอและเกร็งลำตัว พร้อม กับ หา balance ในร่างกาย

-Double Leg on Elbow เริ่มจากวางมือทั้งสองข้างลงบนพื้นแล้วก้มตัวลงมาเล็ กน้อยเพื่อที่ให้ศอกงอและให้บริ เวณแถวขาหนีบหรือเหนือกว่านั้นวางบนศอกได้เมื่อขึ้นม าได้แล้วให้ขาทั้ง 2 นั้นยืดออกเพื่อให้ควบคุมได้ง่ายและสวยงามขึ้น ทั้งนี้เราต้องตัวและขาวางอยู่บนศอก น้ำหนักทั้งหมดจะอยู่ที่มือทั้งสองข้าง

-Double Leg Keep ท่านี้เป็นท่าฝึกในยิมนาสติก โดยนั่งและวางมือทั้ง 2 ให้อยู่ข้างๆให้ห่างจากตัวเล็กน้อยพร้อมกับเกร็งตัวแ ละสะโพกให้ลอยจากพื้นพร้อมกับยก ขาทั้งสองข้างขึ้น ซึ่งเราสามารถกางขา ขาชิดกันหรือขาไขว้ก้อได้

ท่าที่ใช้หัวเป็นฐาน
-Head force ท่านี้ต้องมีพื้นฐานในการตั้งหัวให้ balance จะเริ่มอธิบายตั้งแต่การตั้งหัวก่อนโดยวางมือในระดับ พอดีและก้มหัวลงโดยให้ฐานอยู่ที ่กลางหัวแล้วก้าวเท้าเกร็งแขนและคอพื้นให้ตัวตั้งขึ้ นมาทั้งตัว เมื่อพอตั้งได้แล้วให้กางขา ย่อขา หุบขา จนชิน และมาฝึกท่านี้กัน head force ท่านี้ที่เรามักเรียกว่าฝืนล่าง เป็นท่าที่สวยงามและต้องใช้แรงเกร็งกล้ามเนื้อท้องแล ะเอวเป็นอย่างมากต้องอาศัยจังหว ะของการ balance ตัวเองอย่างมาก โดยฝึกจากวางมือไปด้านหน้าแล้วตั้งหัวและย่อนเอวและล ำตัวลงมาให้มากที่สุดและพยายามฝ ืน+เกร็งให้ได้ โดยเราวางขาโดยการงอเข่าจะอยู่ในท่าที่สวยงาม เมื่อฝึกจนคล่องแล้วให้ตั้งหัวแบบธรรมดาแล้วค่อยๆ
วางมือไปด้านหน้าแทน

-Head set ท่านี้ต้องมีพื้นฐานจากการตั้งหัว ค่อนข้างง่าย โดยในขณะที่เราตั้งหัวตั้งจังหวะตัวและขาให้หันไปด้า นซ้ายหรืขวา ด้านใดด้านนึง โดยเราต้องหันหน้าไปด้านที่เราต้อง การ ตามถนัดพร้อมกับบิดดเอวและขาไปพร้อมกันกับหน้าส่วนมื อด้านตรงข้ามที่เราหันหน้าและบิ ดเอวนั่งจะต้องวางศอกแนบลงกับพื้น

ท่าที่ต้องอาศัยกำลังและจังหวะ
ท่า powermove เป็นท่าที่อาศัยความยากมากขึ้นอีกระดับนึงเพราะเนื่อ งด้วยความจำกัดของกำลังผู้ญซึ่ง ทำให้ต้องอาศัยการฝึกมากกว่าปกติ ท่าที่มีอยู่นี้จึงมีน้อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่าที่เราร ่อนระนาบไปกับพื้น (glide)

Headspin - เริ่มจากตั้งหัวแล้วกางขาพอประมาณพร้อมกับบิดเอวและล ำตัวเล็กน้อย ให้ พอมี แรงเวียง จังหวะเดียวกันก็ปัดมือไปด้านที่ถนัด

Headglide - เริ่มจากตั้งหัวให้มั่นคงรักษาbalance ให้ได้มากที่สุด กางขาให้ตึงและกว้าง และปัดมือพร้อมกับหัวไปในด้านที่ถนัด ขณะเดียวกันพยายามเลี้ยงหัวไม่ให้ล้มไปเรื่อยๆ เมื่อ momentum ได้ที่ แล้วก้อจาก เริ่มการ glide คือการร่อนของแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการปัดมือด้วยความ เร็วชั่วขณะเมื่อ balance คงที่ จนกว่าจะหมดแรงเหวี่ยง ซึ่งสามารถเพิ่มรอบหมุนโดยการปัดมือไปด้วยในขณะเดียว กัน

: Air Move

-1990's ท่านี้คุณควรฝึกหกสูงให้ชำนาญเสียก่อน เริ่มแรกยืนกางขาออกพอประมาณ มือขวาเหวี่ยงไปด้านขาซ้าย และเตะขาซ้ายขึ้น และเตะขาขวาลอยตาม วางมือซ้ายไว้ใกล้ๆมือขวา และยกมือขวาขึ้น เกร็งแขนให้ชิดข้างหูไว้ และอย่างอแขน (นี่คือวิธีการขึ้นของการหมุนมือซ้าย ถ้าใครถนัดขวาก็สลับกัน)
-2000's ท่านี้เหมือนท่า1990' เพียงแต่ท่านี้จะวางมือทับกันเท่านั้น การขึ้นเหมือนกันหมดทุกอย่าง


trick-พยายามตั้งลำตัวให้ตรงและเกร็งแขนเอาไว้